การสอนคำสอนแบบ
Active
learning
ประสบการณ์เป็นครูที่ดีที่สุดของเรา
การได้เดินทางไปแสวงบุญยังสถานที่แห่งหนึ่งแห่งใด
จะทำให้ท่านไม่ลืมไปได้อย่างง่ายๆ
เมื่อเทียบกับการได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับสถานที่นั้นเท่านั้น
เราส่วนใหญ่มักจะเรียนรู้แบบเป็นฝ่ายรับ(Passive) เช่น การนั่งฟังการบรรยายหรืออ่านตำราอยู่คนเดียว
แต่ไม่ค่อยได้เรียนรู้แบบเป็นฝ่ายกระทำ เช่น การเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรงกับเรียนรู้
การเรียนรู้จากประสบการณ์ หรือการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติสิ่งหนึ่งสิ่งใด
ต่อไปนี้เป็นการเปรียบเทียบลักษณะการเรียนรู้
แบบ Passive
Learning ซึ่งเป็นวิธีการที่เราคุ้นเคยกันมา กับ Active
Learning ที่ครูคำสอนควรเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในงานคำสอนของเรา
การเรียนแบบ
Passive
Learning
|
การเรียนแบบ
Active
Learning
|
ผู้เรียนเริ่มต้นโดยการรับรู้เนื้อหา
|
ผู้เรียนเริ่มด้วยการแบ่งปันประสบการณ์
|
คำสอนเป็นผู้ให้ข้อมูล
ผู้เรียนเป็นผู้รับข้อมูล
|
ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการค้นหาสิ่งที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ
ครูเป็นเพียงผู้นำและแหล่งข้อมูล เป็นผู้อำนวยความสะดวก
|
การบวนการเรียนเป็นแบบ
Deductive
คือเริ่มจากคำสอนหรือหลักการ
และค่อยๆนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในชีวิต
|
การเรียนเป็นแบบ
Inductive
คือ
เริ่มจากประสบการณ์เฉพาะเรื่องแล้วนำไปสู่หลักการที่สามารถนำไปใช้กับกรณีอื่นๆทั่วไป
|
บรรยากาศการเรียนเป็นไปตามลำดับ
มีระเบียบ มีความเงียบ พลังงานของผู้เรียนถูกจำกัดไปกับการควบคุมตนเอง ผู้เรียนรู้สึกอึดอัดและต่อต้าน
|
บรรยากาศการเรียนจะดูอึกทึกวุ่นวาย
แต่ควบคุมได้ พลังงานของผู้เรียนถูกนำมาใช้ในการค้นหาและเรียนรู้
|
ผู้เรียนไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวหรือมีปฏิสัมพันธ์มากนัก
|
ผู้เรียนมีโอกาสเคลื่อนไหวและมีปฏิสัมพันธ์บ่อยขึ้น
|
การอภิปรายจะถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบความมั่นใจในความรู้ที่เกิดมาจากความจำในเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ไป
|
การอภิปรายถูกนำมาใช้เพื่อสำรวจถึงความหมายจากประสบการณ์และเพื่อนำไปประยุกต์ให้เกิดความรู้ใหม่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตข้างหน้า
|
การเรียนการสอนแบบ Active
Learning นั้นให้ความสำคัญกับผู้เรียนโดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนรู้ให้มากที่สุด
โดยครูคำสอนสามารถใช้ เกม บทบาทสมมติ กิจกรรม ใบงาน และการค้นคว้าต่างๆ
ซึ่งผู้เรียนจะได้รับติดตัวไม่ใช่เฉพาะความรู้ทางสติปัญญาเท่านั้น
การเรียนแบบ Active
Learning นี้เหมาะกับการสอนคำสอนที่ครูคำสอนควรที่จะเรียนรู้และนำไปปฏิบัติ
ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำบางประการเพื่อจะได้ช่วยทำให้ครูคำสอนสามารถทำการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
· ครูควรศึกษาคุณลักษณะของการสอนแบบ
Active
Learning จากแหล่งความรู้ต่างๆ
· ฝึกการสอนคำสอนแบบ
Active
Learning
· ควรให้เวลาในการฝึกและการเตรียมตัว
· อย่าแพ้การประจญหรือยกเลิกการสอนแบบ
Active
Learning ไปเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและไม่คุ้นเคย
ตัวอย่างการสอนคำสอนแบบ
Active
Learning
เรื่อง
“ความเคารพต่อมโนธรรมของผู้อื่น” (โรม 14:1-23)
1. เริ่มการสอนคำสอนโดยให้ผู้เรียนได้คิดในประเด็นที่ว่า
“อะไรเป็นสาเหตุให้คนเราต้องทะเลาะกัน”
2. ให้ผู้เรียนอ่าน
โรม 14:1-23 ดังๆ
3. แบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็นกลุ่มละ
4-6 คน
แล้วให้แสดงออกมาเป็นแบบบทบาทสมมุติที่สะท้อนให้เห็นแนวทางการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพต่อกันและกัน
4. ให้เวลาแต่ละกลุ่มได้ซ้อมและแสดง
หลังจาการแสดงเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็น และสรุปบทเรียน โดยอ่านพระวาจา โรม
14:1-23
อีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น